- January 14, 2025
- Posted by: admin
- Category: BitCoin, Blockchain, Cryptocurrency, Investments
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเติบโตของ AI Agent หรือ “ตัวแทน AI” ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถทำงานอย่างอิสระโดยใช้ข้อมูลและชุดคำสั่งที่ได้รับ ตัวอย่างที่น่าสนใจ ได้แก่ AI Agent ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ จัดการกระเป๋าคริปโต และพัฒนาเหรียญ meme coin โดยแทบไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์
Lark Davis ได้กล่าวใน วิดีโอล่าสุด ของเขาว่า AI Agents อยู่ในจุดตัดที่น่าสนใจระหว่าง AI, คริปโต และวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต สิ่งนี้ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นเทคโนโลยีที่อาจแก้ปัญหาสำคัญในวงการคริปโต เช่น ความซับซ้อนในการใช้งาน และอาจนำไปสู่การเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในตลาด
และนอกจากนี้ จากกรณีศึกษาโดย PanewsLab พบว่า ตลาดสำหรับ AI Agents มีแนวโน้มเติบโตถึง 20 พันล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ในอนาคต
AI Agent ต่างจาก ChatGPT อย่างไร
ตัวอย่างเช่น หากคุณถาม ChatGPT เกี่ยวกับการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี มันจะให้คำแนะนำจากข้อมูลเก่าที่ถูกฝึกฝนไว้ในปีก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่ทำให้ AI Agent แตกต่างคือความสามารถในการติดตามข้อมูลตลาดทั่วโลกแบบเรียลไทม์และปรับพอร์ตการลงทุนของคุณเพื่อเพิ่มผลตอบแทนได้ทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้ใช้งาน
AI Agent ยังสามารถแปลงความต้องการของผู้ใช้เป็นคำสั่งโปรแกรมที่เฉพาะเจาะจงได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการตั้งค่าการแจ้งเตือนราคาคริปโต ระบบจะเข้าใจและดำเนินการให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อนและสร้างทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้
ในวงการคริปโต AI Agent มีศักยภาพที่จะปฏิวัติระบบการทำงานแบบเดิม เช่น การซื้อขาย การจัดการพอร์ต และแม้กระทั่งการสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ ผ่านบล็อกเชน โดยใช้ความสามารถนี้เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
การผสมผสานระหว่าง AI Agent และคริปโตในยุค Web3
AI และคริปโตไม่ได้เป็นเพียงสองเทคโนโลยีที่แยกจากกัน แต่เมื่อทั้งสองรวมตัวกัน จะเกิดประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะใน Web3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของอินเทอร์เน็ตที่เน้นความเป็นเจ้าของ
- Decentralization (การกระจายอำนาจ):
ใน Web3, AI Agents สามารถทำงานบนบล็อกเชนเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลและกระบวนการตัดสินใจนั้นโปร่งใสและไม่ถูกควบคุมโดยหน่วยงานเดียว เช่น การใช้ Ethereum Smart Contracts เพื่อให้ AI Agents ทำธุรกรรมแบบอัตโนมัติ - Incentive Mechanism (กลไกจูงใจ):
ด้วยโมเดลเศรษฐกิจโทเคน (Token Economy) นักพัฒนาและผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของ AI Agent และได้รับรางวัลเป็นโทเคน ตัวอย่างเช่น โครงการ Fetch.ai ใช้โทเคนเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของเอเจนต์ AI - True Eternal Life (Agent มีชีวิตเป็นอมตะ):
ด้วย Smart Contracts, AI Agents สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและไม่มีวันหมดอายุ เช่น การออกแบบระบบที่สามารถจัดเก็บและดำเนินงานตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในบล็อกเชนได้ตลอดไป
ตัวอย่างโครงการเกี่ยวกับ AI Agent ที่น่าจับตามอง
เราจะแบ่งตัวอย่างระบบนิเวศของ AI Agent นี้ด้วยสองส่วนหลัก: แพลตฟอร์มที่ใช้ในการสร้างและจัดการ AI Agents และตัว AI Agents เองที่ทำงานบนแพลตฟอร์มเหล่านั้น
Virtuals Protocol แพลตฟอร์มสร้าง Tokenise AI Agents
เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2024 บนเครือข่าย Base และได้กลายเป็นหนึ่งในโครงการชั้นนำในวงการคริปโต แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและปรับใช้ AI agents ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด นอกจากนี้ยังมีระบบการแบ่งปันรายได้ผ่านการ tokenize AI agents ทำให้ผู้ถือโทเคนสามารถมีส่วนร่วมในรายได้ที่ agents สร้างขึ้น ราคาของโทเคน $VIRTUAL เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น 300% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาและแตะระดับสูงสุดที่ $3.30
AI16Z: แพลตฟอร์ม AI Agent แบบกระจายศูนย์ (DAO)
AI16Z เป็นองค์กรอิสระแบบกระจายศูนย์ (DAO) ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2024 บนเครือข่าย Solana57 โดยใช้ AI agent ชื่อ “Marc AIndreessen” ในการตัดสินใจลงทุนแบบอัตโนมัติ แพลตฟอร์มนี้มุ่งปฏิวัติวงการลงทุนด้วยการใช้ AI และการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจ โทเคน $AI16Z ใช้สำหรับการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการทำธุรกรรมภายในระบบ มูลค่าตลาดของ AI16Z เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกิน $2 พันล้านในเวลาไม่กี่เดือนหลังเปิดตัว
3. AI xbt: AI Agent นักวิเคราะห์ตลาดคริปโต
AI xbt ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ในการจัดการข้อมูลมหาศาลในตลาดคริปโต โดยสามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม Lark Davis ระบุว่ามีนักลงทุนที่ใช้ข้อมูลจาก AI xbt ในการตัดสินใจเทรดและสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าทึ่ง
4. Artificial Superintelligence Alliance (FET) – เครือข่าย AI Agents แบบกระจายศูนย์
ASI Alliance เป็นความร่วมมือระหว่าง 3 โครงการ AI ชั้นนำ ได้แก่ Fetch.ai, SingularityNET และ Ocean Protocol โดยมีเป้าหมายที่มุ่งเน้นการสร้างเครือข่าย AI agents ที่สามารถเรียนรู้ ทำงานร่วมกัน และทำธุรกรรมแบบอัตโนมัติ โทเคน $FET ใช้สำหรับการทำธุรกรรมและการมีส่วนร่วมในเครือข่าย โครงการนี้มีเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบเปิดและขยายได้สำหรับการพัฒนา AI
มาตรฐาน Framework ของ AI Agent: กุญแจสู่อนาคต
มาตรฐานเฟรมเวิร์กสำหรับ AI Agents เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและปรับใช้เอเจนต์ได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเฟรมเวิร์กที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้
Eliza Framework: โครงสร้างและความโดดเด่น
Eliza Framework เป็นหนึ่งในโครงสร้างหลักที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและบริหารจัดการ AI Agents ได้ง่ายขึ้น โดยโครงสร้างนี้ได้รับการพัฒนาโดยใช้ภาษา TypeScript ซึ่งเหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันบนเว็บ
คุณสมบัติเด่นของ Eliza ได้แก่
- Multi-Agent System: รองรับการสร้าง AI Agents หลายตัวพร้อมกัน
- Memory Management System: ระบบจัดการความจำแบบ Long-Term Memory ที่ช่วยให้เอเย่นต์จดจำบริบทและข้อมูลเก่าได้
- Integration Platform: รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น X, Discord, Telegram นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานกับ Github, Farcaster, Lens และ Slack โดยล่าสุดสามารถสื่อสารด้วยเสียงใน Discord สามารถสรุปบทสนทนา วิเคราะห์เนื้อหาข้อมูล และใช้ข้อมูลประกอบการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน
Virtuals Protocol: นวัตกรรม AI Agent แบบกระจายศูนย์
Virtuals Protocol เป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอแนวคิดใหม่ในการสร้างและจัดการ AI Agents โดยผสมผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับ AI ซึ่งสร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum Layer 2 (Base) เพื่อรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพคุณสมบัติเด่นของ Virtuals Protocol ได้แก่
- G.A.M.E. Framework: รองรับการพัฒนา AI Agents แบบ Generative Autonomous Multimodal Entity ที่มีความซับซ้อนสูง
- Decentralized Ownership: ระบบการเป็นเจ้าของร่วมและการบริหารจัดการ AI Agents แบบกระจายศูนย์
- Cross-Platform Compatibility: รองรับการทำงานของ AI Agents ข้ามแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น เกม โซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชัน
- Tokenization: ระบบการแปลง AI Agents เป็นโทเคนดิจิทัลบนบล็อกเชน
- Parallel Hypersynchronicity: เทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความสอดคล้องของ AI Agents ระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ
Virtuals Protocol นำเสนอมุมมองใหม่ในการพัฒนา AI Agents โดยเน้นการกระจายอำนาจและความโปร่งใสผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้าง AI Agents ที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถทำงานได้ในระบบนิเวศที่หลากหลาย
Framework อื่น ๆ ในตลาด
แม้ว่า Eliza และ Virtuals Protocol จะมีข้อได้เปรียบหลายประการ แต่ยังมีเฟรมเวิร์คอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในตลาด เช่น GAME, RIG และ ZerePy ตัวอย่างเช่น RIG ซึ่งพัฒนาด้วยภาษา Rust เน้นประสิทธิภาพและความปลอดภัย เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ในขณะที่ ZerePy ซึ่งเขียนด้วย Python เน้นการใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่สนใจด้านศิลปะดิจิทัล
ในอนาคต มาตรฐานเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำหรับการสร้างเอเจนต์ที่มีความสามารถหลากหลายและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงของวงการคริปโตไปอีกขั้น
บทสรุป
AI Agent กำลังเปลี่ยนแปลงวงการคริปโตด้วยความสามารถในการดำเนินงานอย่างอัตโนมัติ โปร่งใส และปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี Web3 และบล็อกเชน นักลงทุนควรศึกษาศักยภาพนี้เพื่อไม่พลาดโอกาสทองในการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของโลกดิจิทัล